ธรรม(มะ) ได้เที่ยว สุขใจเที่ยวเมืองรอง นครนายก ปราจีนบุรี ลมหายใจของเมืองทวาราวดี ที่ยังมีชีวิต สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คึกคัก
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 7-8 พฤษภาคม 65 ที่จังหวัดนครนายกและปราจีนบุรี ที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จักว่าเป็น เมืองคู่แฝดท่องเที่ยวผจญภัย นั้น ปัจจุบันด้วยกระแสท่องเที่ยว ‘มูเตลู’ กำลังเป็นที่นิยม ส่งผลดีให้แหล่งท่องเที่ยวทางศาสนา วัฒนธรรม รวมถึงโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นด้วย โครงการ ‘ธรรม (ะ) ได้เที่ยว’ จึงถือได้ว่า เป็นโครงการที่ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ให้เป็นที่รู้จัก ในมิติที่หลายคนยังไม่เคยสัมผัส ดังนั้น ช่วงโอกาสนี้ ขอแนะนำนักท่องเที่ยวให้เสริมสิริมงคลชีวิต อย่างมีความสุขด้วยการเดินทางท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งมีทั้งทะเล ภูเขา ฯลฯ ครบถ้วน สมบูรณ์แบบสไตล์ ‘สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก
นางวันดี เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวาน นักท่องเที่ยว กล่าวถึงการจัดกิจกรรม ‘ธรรม(ะ) ได้เที่ยว’ ซึ่งได้ร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่และนอกพื้นที่รับผิดชอบWanderlust Tour & Travel Consulting Co.,Ltd. ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท)ในการนำเสนอขายแพ็คเกจ เส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ภายใต้โครงการท่องเที่ยวปลอดภัย สุขใจเที่ยวเมืองรอง #นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยภายในประเทศผ่านกิจกรรม/แพ็คเกจ/โปรโมชั่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มวัยทำงาน และ Active Senior ให้เดินทางสัมผัสและชมแหล่งท่องเที่ยว เชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัดและพุทธสถานต่างๆ ประชาสัมพันธ์เส้นทาง แหล่งท่องเที่ยว ศรัทธา ความเชื่อ ร้านอาหารและที่พัก ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจกิจกรรมทางการท่องเที่ยวประเภทนี้ ภายใต้มาตรการการท่องเที่ยววิถีใหม่ (New normal)
บรรยากาศ ทริปการเดินทาง คณะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติปราจีนบุรี โบราณสถานสระมรกต พระพุทธรูป ทวาราวดีองค์งามที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ และเคยถูกอัญเชิญไปจัดแสดงในหลายประเทศ จากนั้นเดินทางเข้าชมตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ มีลักษณะอาคารเป็นตึกสองชั้น สร้างโดยบริษัทโฮวาร์ด เออร์สกิน เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปในแบบบาร็อค (Barogue) ตั้งอยู่ภายในรั้วของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ ทาสีเหลืองมัสตาร์ด มีลวดลายปูนปั้นสีขาวประดับงดงาม สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.2452 ปัจจุบันตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์นี้ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์แพทย์แผนไทย และที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ และเสริมสิริมงคลกราบหลวงพ่ออภัย ที่วัดแก้วพิจิตร เพื่อขอพรให้เกิดความสงบร่มเย็น และผู้ที่ได้กราบไว้จะได้พรที่จะมีเสน่ห์ที่คำพูดและการเจรจา สถาปัตยกรรมมีการผสมผสานด้วยกัน 4 แบบ เป็นวัดคู่แฝด กับวัดดำเรยซอร์ หรือวัดช้างเผือก ที่สร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม) ณ เมืองพระตระบอง ก่อนจะอพยพมาพำนักที่เมืองปราจีนบุรี พักรับประทานอาหารกลางวันที่ บ้านเล่าเรื่อง บ้านหลังเล็กๆ ปกคลุมด้วย ต้นไทร ต้นใหญ่ อายุเก่าแก่ ร่มครึ้ม ซึ่งเดิม เป็นบ้านของครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์ ตระกูลเก่าแก่ของเมืองปราจีนบุรี สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2493 บ้านเล่าเรื่อง สมุนไพรปราจีนบุรี เป็นร้านอาหาร ที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองปราจีนบุรี วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และวัฒนธรรมประเพณี รวมถึง ภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านสมุนไพร ที่คนปราจีนบุรีใช้ในการดูแลสุขภาพมายาวนาน
หลังรับประทานอาหารเดินทางต่อไปยังเมืองศรีมโหสถ เมืองโบราณที่มีพัฒนาการตั้งแต่ราว พุทธศตวรรษที่ 11-18 ชมสระเเก้ว สระขวัญ สระน้ำที่มีภาพสัตว์มงคล กรุอยู่โดยรอบของขอบบ่อ เชื่อว่าเคยใช้น้ำในสระนี้ เป็นน้ำมงคล ใช้ในการประกอบพระราชพิธีสำคัญ โดยที่ขอบสระ มีการสลักรูปสัตว์ภายในกรอบสี่เหลี่ยม ช้าง มกร หม้อน้ำ สิงห์ หมู งู และช้าง ซึ่งเป็นสัตว์มงคลของเทพในศาสนาฮินดู สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ โดยมกร มีความใกล้เคียงกับรูปแบบศิลปะอมราวดีของอินเดีย ที่อยู่ภายในกำแพงเมือง และคูน้ำ
ต่อด้วยโบราณสถานสระมรกต นมัสการรอยพระบาทคู่สมัยทวาราวดี ที่เป็นที่เคารพเลื่อมใสที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยจะมีพุทธศาสนิกชนมากมายนับพัน มาสวดมนต์ ทำพิธีที่รอยพระพุทธบาทนี้ในวันมาฆะบูชาในทุกๆ ปี
พลบค่ำ มีงานเลี้ยงต้อนรับ ที่ร้านอาหาร ณ บางกุ้ง ทุ่งข้าว นักท่องเที่ยวกว่า 100 ท่าน รวมทั้งสื่อมวลชนจากส่วนกลาง ร่วมงานตามมาตรการสาธารณสุข สนุกสนาน
วันรุ่งขึ้น ก่อนเดินทางกลับ คณะนักท่องเที่ยว ได้ไหว้พระ สักการะท้าวเวสสุวัณ วัดปทุมบูชา อำเภอศรีมหาโพธิ รับเลขเด็ด เลขมงคล กลับบ้านโดยสวัสดีภาพ