NEWS

TRAViZGO Super App เปิดตัวเป็นพันธมิตรหลักโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL กระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในรูปแบบดิจิทัล ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างสนุกและยั่งยืน

10 เมษายน 2566, กรุงเทพมหานคร – นำโดย นายธนวัฒน์ โฆสิตวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยี บริษัท ทราวิซโก อินโนเทค จำกัด เข้าร่วมงาน SUKJAI SMART TRAVEL จัดโดย Crypto City Connext ตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในประเทศไทยผ่านช่องทางดิจิทัล ณ อาคารสำนักงานใหญ่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 30 องค์กร เช่น TRAVIZGO, Central Group, The1, Central Retail Digital, Jaymart, Join, DPU, BIRD Express และ Avindus

นายธนวัฒน์ ได้กล่าวว่าการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรของ TRAViZGO Super App ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นหนึ่งเดียวของผู้ประกอบการแพลตฟอร์ม OTA ชั้นนำของไทย ในการร่วมสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว ตามคอนเซปต์ของ ททท. ที่ว่า “โมเมนต์ที่ใช่ สร้างได้ไม่ต้องรอ”  ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมและรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วยระบบดิจิทัล โดยทีมเทคโนโลยีของเราได้มีการพัฒนาเชื่อมต่อระบบเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้สะสมน้องสุขใจ NFT เพื่อใช้งานได้อย่างง่ายๆ โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับโครงการด้วย TRAViZGO Big Bonus เพื่อใช้เป็นส่วนลดบน TRAViZGO SUPER APP สูงสุดถึงกว่า 5,000 บาท ซึ่งสามารถใช้สิทธิประโยชน์นี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2566 จนถึงจบโครงการ

Crypto City Connext หรือกลุ่มพัฒนาเมืองด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ TRAViZGO ได้ร่วมเป็นพันธมิตรสนับสนุนโครงการ โดยมีคุณนิธิ สีแพร รองผู้ว่าการ ททท. ด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวไทย ให้มีความน่าตื่นตา ตื่นใจมากยิ่งขึ้นโดยการสร้างกิจกรรมให้นักท่องเที่ยว “ตามเก็บน้องสุขใจ” ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

น้องสุขใจได้เปิดตัวในรูปแบบของ NFT (Non-Fungible Token) โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดน้องสุขใจที่เคยเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ 2548 ในแคมเปญ เที่ยวที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา โดยได้พัฒนามาเป็นตัวละครรูปแบบ Digital ที่ให้นักท่องเที่ยวไปตามสแกนในที่ต่างๆ เพื่อตามเก็บน้องสุขใจ กระตุ้นการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปในแต่ละชุมชน สร้างมูลค่า และการเติบโตของธุรกิจ โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งในโลกดิจิทัลและโลกจริง มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง โดยในอนาคตคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นคนกลุ่มหลัก ที่ช่วยผลักดันการท่องเที่ยว

นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการ ททท. ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา  ได้กล่าวถึงงานนี้ว่า “ ในปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยีตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 จึงได้ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เป็นดิจิทัล การนำสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีมาใช้ในการท่องเที่ยว และการสร้างมูลค่าให้กับน้องสุขใจ”

ทางด้านนายหรรษธร ศรีสุข ผู้บริหารโครงการ ได้เล่าถึงคอนเซปต์ Songkran Edition 2023 ว่า “การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยสร้างมูลค่าให้กับน้องสุขใจ โดยให้นักท่องเที่ยวตามหาน้องสุขใจตามจังหวัดต่างๆ โดยในแต่ละพื้นที่จะได้น้องสุขใจที่แตกต่างกันตามเอกลักษณ์ของจังหวัดนั้น วัตถุประสงค์ของโครงการ พัฒนาการท่องเที่ยวด้วยเกมเพื่อสร้างความสนุกให้แก่นักท่องเที่ยว และนำเทคโนโลยี Blockchain สร้างสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อมอบเป็นของสะสมให้นักท่องเที่ยวในการเดินทาง และช่วยสร้างความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ เอกชน ธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อย โดยตอนนี้ได้เริ่มโครงการใน 5 จังหวัดแรกได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น ระยอง ภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยจะมีการแบ่งระดับความหายากของน้องสุขใจออกเป็น 3 ระดับได้แก่ Normal, Rare, และ Super Rare เป็นของสะสมให้นักท่องเที่ยวออกไปสแกนสะสมกัน โดยในแต่ละพื้นที่จะมีน้องสุขใจที่แตกต่างกัน และมี Accessories ต่างๆ ของน้องสุขใจให้ไปตามสแกนตามร้านค้าที่ได้เข้าร่วม”

โดย ระยะที่ 1 โครงการฯ จะเริ่มระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2566 จำนวนทั้งสิ้น 5,550 ชิ้น ในรูปแบบสุ่ม Random น้องสุขใจแบบ Normal 5,000 ชิ้นงาน แบบ Rare 500  ชิ้นงาน และแบบ Super Rare 50 ชิ้นงาน ณ จุดท่องเที่ยวสงกรานต์ที่ได้รับความนิยมของจังหวัด ได้แก่ ถนนราชประสงค์ กรุงเทพฯ (จำนวน 1,110 ชิ้นงาน)  ถนนนิมมานเหมินท์ จ.เชียงใหม่ (จำนวน 1,110 ชิ้นงาน)  ถนนดีบุก จ.ภูเก็ต (จำนวน 1,110 ชิ้นงาน) ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น (จำนวน 1,110 ชิ้นงาน) และถนนยมจินดา จ.ระยอง (จำนวน 1,110 ชิ้นงาน) หลังจากนั้น ระยะที่ 2 โครงการฯ จัดทำกิจกรรมแจกน้องสุขใจ ชุด “Community Edition 2023” จำนวนทั้งสิ้น 300,000 ชิ้นงาน ใน 15 สถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนต่าง ๆ ใน 5 จังหวัดเดิม ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 15 สิงหาคม 2566

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/TRAViZGO

Instagram: https://www.instagram.com/TRAViZGO

LINE Official: @TRAViZGO

Website: https://www.TRAViZGO.com/