ททท. เตรียม kick off เทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566” ชวนสัมผัสคุณค่าแห่งวิถีไทยทั่วประเทศ
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/C87A6235.jpg)
บ่ายนี้ (16 พฤศจิกายน 2566) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานแถลงข่าวเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566” ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท. เตรียมสืบสานงานประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่าอย่าง“วิถีไทย” ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ในคอนเซปต์ “Moonlight Reflection Loi Krathong Along The Canal” ระหว่างวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2566 ณ คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง เนรมิตบรรยากาศแห่งความสุข สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยด้วยการนำเสนอสายธารประทีป 5 พื้นที่อัตลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด พร้อมสอดแทรกแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
คาดปั๊มรายได้ท่องเที่ยวทั่วประเทศ 6,100 ล้านบาท
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/11.jpg)
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566 ถือหนึ่งใน Big Events ของ ททท. ภายใต้ Thailand Winter Festival โดยมีกำหนด
จัดงานในวันที่ 24-28 พฤศจิกายน 2566 ณ คลองผดุงกรุงเกษม ย่านหัวลำโพง กรุงเทพมหานคร มุ่งนำเสนอความสุขและคุณค่าของประเพณีลอยกระทงตามวิถีไทย สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยกับสายน้ำสู่สากล ในแนวคิด “Moonlight Reflection Loi Krathong Along the Canal” สร้างสีสันบนผืนน้ำด้วยแสงสี (Lighting) เติมเต็มค่ำคืนวันเพ็ญ พร้อมนำส่งประสบการณ์ใหม่ Amazing Experience ของประเพณีลอยกระทงที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบสู่ความยั่งยืน (Sustainable Tourism) ด้วยการรณรงค์ใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติ 1 ครอบครัว 1 กระทง และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทั้งในพื้นที่ที่ ททท. จัดงาน และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/10.jpg)
ปีนี้ ททท. พร้อมมอบความพิเศษด้วยไฮไลต์การแสดงแสงเสียง “Lighting Illumination Show” ผ่านสัญลักษณ์แลนมาร์กกระทงประดับไฟ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของประเพณีไทย เช่น พิธีเฉลิมฉลองประเพณีลอยกระทงขบวนแห่ประเพณีลอยกระทง โดยนางสาวแอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022 แต่งกายชุดนางนพมาศ การแสดงทางวัฒนธรรม กิจกรรมสาธิตอาหารชาววังและกระทงเอกลักษณ์ 5 พื้นที่ กิจกรรม รวมทั้งตลาดย้อนยุครัตนโกสินทร์จำหน่ายอาหารไทย นอกจากนี้ ททท. ยังตระหนักถึงเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่จัดงาน โดยมีการบริหารจัดการขยะจากกระทง และให้นักท่องเที่ยวร่วมสืบสานประเพณีไทยที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรม DIY ประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน กระทงกาบกล้วย
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/C87A6157.jpg)
ทั้งนี้ ททท. ได้สนับสนุนและประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีลอยกระทง 5 พื้นที่อัตลักษณ์ทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด ซึ่งแต่ละพื้นที่มีรายละเอียดแตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้
1. ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ ประจำปี 2566
กำหนดการ : วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2566
สถานที่จัดงาน : บริเวณเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
กิจกรรมภายในงาน : เนรมิตบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ต้อนรับประเพณีลอยกระทงตามความเชื่อล้านนา วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พบกับพิธีขอขมาแม่น้ำปิง กิจกรรมประกวดโคมยี่เป็งล้านนา และพิธีเปิดงานประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2566 เวลา 18.00 น. ณ ข่วงประตูท่าแพ ภายใต้แนวคิด “เชียงใหม่นครแห่งความสุข และความสง่างาม ค่ำคืนแห่งสายนที วิถีวัฒนธรรมล้านนา”, วันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2566 พบกับ
การประกวดเทพี-เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ พิธีปล่อยกระทงสายล้านนา กิจกรรมความสุขแห่งสายน้ำ ยี่เป็งเชียงใหม่ และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ เวลา 20.30 น. ณ ท่าน้ำศรีโขง ต่อมาในวันที่ 27 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป พบกับ
การประกวดขบวนแห่สะเปาล้านนา การประกวดหนูน้อยยี่เป็งเชียงใหม่ และ
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 พบกับการประดวกชบวนแห่กระทงใหญ่ชิงถ้วยพระราชทานฯ เวลา 19.00 น. ณ ท่าแพ สำนักงานเทศบาล
2. ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย
กำหนดการ : วันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566
สถานที่จัดงาน : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
กิจกรรมภายในงาน : ตื่นตาตื่นใจกับไฮไลต์การแสดงแสง เสียง ณ วัดมหาธาตุ เมืองมรดกโลกสุโขทัย ย้อนอดีตสู่ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย ผ่านการถ่ายทอดจากนักแสดงนาฏศิลป์กว่า 400 ชีวิต ชมขบวนช้างยุทธหัตถี การละเล่น พลุตะไล ไฟพะเนียง
ไฟไทยแบบโบราณ สุดตระการตา วันที่ 18-27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. และเพิ่มรอบในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 20.30 น. การแสดงการจุดพลุ ตะไล ไฟ พะเนียง ดอกไม้ไฟ แบบสุโขทัย ทุกวัน เวลา 22.30 น. การจำลองวิถีชีวิตสมัย
กรุงสุโขทัย ตลาดโบราณ ตลาดแลกเบี้ย ตลาดบ้านบ้าน ทุกวัน เวลา 16.00 -22.00 น., การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ณ บริเวณหลังวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 21.00 น., การแสดงแสง เสียง ชุดตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ บริเวณตระพังตระกวน ทุกวัน เวลา 22.00 น., การประกวดกระทงเล็ก กระทงใหญ่ โคมชัก โคมแขวน จัดแสดง
ณ ลานหน้าอนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง และตระพังตาล ทุกวัน เวลา 16.00-23.00 น., กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทงสุโขทัย (โซน ททท.)
การแสดงและสาธิตผลิตภัณฑ์ ของที่ระลึก สุโขทัย กิจกรรม DIY การแสดงวัฒนธรรม และจุดถ่ายภาพ Landmark ณ บริเวณหน้าวัดชนะสงคราม ทุกวัน เวลา 16.00-22.00 น. และในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป พบกับ
ขบวนแห่ทางวัฒนธรรมงานประเพณีลอยกระทงสุโขทัย กระทงใหญ่ โคมชักโคมแขวนจาก 4 ปากประตูเมืองสุโขทัย
3. ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง จังหวัดตาก
กำหนดการ วันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2566
สถานที่จัดงาน เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี อำเภอเมือง จังหวัดตาก
กิจกรรมภายในงาน : วันที่24 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย จำหน่ายกระทงกะลาของนักเรียน และกิจกรรมทางศาสนา ได้แก่ สักการะบูชาพระอุปคุต รอยพระพุทธบาท พระแม่คงคา น้ำมนต์จันทร์เพ็ญวัดวา
สะเดาะเคราะห์, กาดกระทงสาย, การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง ดาวรุ่งลูกทุ่งกระทงสายชิงถ้วยพระราชทานฯ และการแข่งขันมวยไทยและมวยคาดเชือก
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/C87A6161.jpg)
– วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และขบวนแห่อัญเชิญพระประทีป พระราชทานฯ, ขบวนแห่เรือกระทงสาย ทั้ง 4 สาย โดยมีไฮไลต์อยู่ที่พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ และพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ ประดิษฐานบนเวทีกลางน้ำปิง และพิธีเปิดงานฯ
ในเวลาในเวลา 20.00 น. พร้อมการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง
– วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ)
ณ เวทีกลางน้ำปิง ในเวลา 19.00 น. และชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง ประจำปี 2566
– วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.พบกับกิจกรรมลานภูมิปัญญากระทงสาย และกิจกรรมไฮไลต์ พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ถวายผ้าป่าน้ำ)
พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทานฯ, ชมการแข่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑,๐๐๐ ดวง ประจำปี 2566 และพิธีปิดงาน ณ เวทีกลางน้ำปิง ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป พร้อมชมการแสดงพลุในเวลา 21.00 น. ก่อนจะส่งท้ายกิจกรรมใส่บาตรพระอุปคุต เที่ยงคืน อาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ในเวลา 24.00 น.
4. ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง
กำหนดการ วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566 ณ อุทยาน ร.2 จ.สมุทรสงคราม
และวันที่ 18 -27 พฤศจิกายน 2566 ณ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง จ.สมุทรสงคราม
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/C87A6229.jpg)
กิจกรรมภายในงาน : กิจกรรมภายในอุทยาน ร.2 พบกับการประกวดกระทงชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี,
การประกวดรำวงตามบทร้อง (พื้นบ้าน) ชิงถ้วยพระราชทานฯ พิธีอาบน้ำเพ็ญ,
การแสดงจากยุวศิลปินของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น, นิทรรศการอาหารบ้านฉัน นิทรรศการกระทงกาบกล้วย กิจกรรมเวิร์กชอปกระทงกาบกล้วย อาหารและขนมพื้นเมือง ก่อนจะเพลิดเพลินไปกับโซนตลาดสินค้าชุมชนและของที่ระลึก สาธิตและการออกร้านอาหารและขนมไทยเมืองอัมพวา รวมทั้งสินค้าเพื่อสุขภาพต่าง ๆ เช่น อาหารสุขภาพ นวด สปา เครื่องหอม สมุนไพร
– กิจกรรมที่จัดขึ้นภายในวัดภุมรินทร์กุฎีทอง พบกับริ้วขบวนแห่พระประทีป พระราชทาน การลอยกระทงกาบกล้วย 200,000 ใบ การประกวดนางนพมาศ
การออกร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน และการแสดงเชิงวัฒนธรรม
5. ประเพณีสมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566
กำหนดการจัดงาน วันที่ 26–27 พฤศจิกายน 2566
สถานที่จัดงาน สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และบึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
กิจกรรมภายในงาน : วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 พบกับ การประกวดรำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป เวลา 13.00 น., การแสดงดนตรีพื้นบ้านอีสาน (หมอลำ) โดยศิลปินแห่งชาติแม่ฉวีวรรณพันธุ์ เวลา 15.00 น. ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด รำวงสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป จำนวน 5,000 คน เวลา 18.00 น. และชมการแสดง แสง เสียง เวลา 18.30 น. และการแสดงของศิลปินท้องถิ่น เวลา 20.00 น.
– วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 พิธีสักการะและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เวลา 8.30 น., พิธีเปิดงานประเพณี “สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป” ครั้งที่ 25 ประจำปี 2566 เวลา 17.30 น, ขบวนอัญเชิญพระประทีปและถ้วยรางวัลพระราชทาน เวลา 18.00 น. ขบวนแห่กระทงประทีป 12 เมืองร่วมสมัย และไฮไลต์ขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานนำหน้าพระประทีปพระราชทานลงลอยในบึงพลาญชัย เวลา 20.00 น. และเชิญประชาชนร่วมลอย “กระทงข้าว” ในเวลา 20.30 น.
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/C87A6144.jpg)
รวมถึงงานประเพณีลอยกระทงในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้แก่ ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม และงาน Bangkok River Festival 2023 สายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย วันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2566
ณ 10 พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรวิหาร วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ท่ามหาราช ท่ายอดพิมาน ล้ง 1919 สุขสยาม และเอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์
![](https://sawaddeemuangthai.com/wp-content/uploads/2023/11/15.jpg)
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมจะเติบโตเพิ่มขึ้น จากแรงหนุนทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ททท. ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้ จึงคาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2.04 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางจากคนท้องถิ่นหรือคนจากจังหวัดใกล้เคียง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ 6,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ซึ่งสำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ ททท. ดำเนินการเอง จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 299,730 คน-ครั้ง และรายได้ทางการท่องเที่ยว 1,215 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่ไฮไลต์ที่ ททท. ให้การการสนับสนุน 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ สมุทรสงคราม เชียงใหม่ สุโขทัย ตากและร้อยเอ็ด จะมีอัตราผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่จัดงานรวมประมาณ 527,070 คน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,765 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 65