ทิศทางการท่องเที่ยวภูมิภาคภาคกลาง ปี 2565 “ Trendy C2 ภาคกลาง ”
กลับมาแล้ว!กับเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ที่ทุกคนรอคอยหลังจากห่างหายกันไปถึง 2 ปี กับงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2565 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวอีกมากมายที่พร้อมใจกันมามอบความสุขให้นักท่องเที่ยวทุกท่านอีกครั้ง ณ สวนลุมพินี ระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ 2565 การจัดงานในปีนี้ ยังคงแบ่งเป็นภูมิภาคต่างๆ ให้ทุกท่านเดินชมอย่างเพลิดเพลินเช่นเดิม โดย ททท. ยังคงมีการแบ่งเป็นโซนหมู่บ้าน 5 ภาคจากทั่วประเทศไทย ประกอบด้วย ภูมิภาคภาคกลาง ภูมิภาคภาคเหนือ ภูมิภาคภาคใต้ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภูมิภาคตะวันออก รวมทั้งโซนของอร่อยจากกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขตและพันธมิตรอื่นๆ ในส่วนของภูมิภาคภาคกลางนั้น ปีนี้โซนหมู่บ้านในภูมิภาคจะเน้นไปที่ Concept เทรนดี้ C2 ภาคกลาง เชิญสัมผัส 6 พลังบวกในหมู่บ้านภาคกลาง พร้อมสีประจำภาคอันเป็นมงคล คือ สีแดงเข้ม หรือสี Crimson ซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงพลังงานด้านบวก ความรัก ความก้าวหน้า โชคลาภ และความเป็นผู้นำ นอกจากนี้ C2 ก็มีความหมายที่ลึกซึ้งและสามารถนำส่งประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคกลางได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นั่นคือ C ตัวที่ 1 ( Create New Experience) : สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้การเดินทางมีความหมายกับชีวิต และ C ตัวที่ 2 ( Charming of Central ) : เสน่ห์ของภาคกลางที่จะช่วยเสริมพลังด้านบวกให้กับชีวิต ซึ่งในปีนี้ ททท. สำนักงานในภูมิภาคภาคกลางทั้ง 9 แห่ง ต่างก็มีสินค้าทางการท่องเที่ยวที่พร้อมนำเสนอให้กับผู้ที่สนใจเพื่อตอบสนองการสร้างเสริมประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่มีค่าและแปลกใหม่ และเกิดความประทับใจได้รับความเป็นสิริมงคลหรือแรงบันดาลใจกลับไป รวมทั้งผ่อนคลายความตึงเครียดจากภาวการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 และเศรษฐกิจในปัจจุบันอีกด้วย
สำหรับการดำเนินการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังจากการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยนั้น ทางภูมิภาคภาคกลางก็ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวอีกมากมายที่พร้อมจะจัดขึ้น เริ่มจากโครงการ Amazing วิถีใหม่ เที่ยวไทยไม่ตกเทรนด์ โดยภูมิภาคภาคกลางได้จัดกิจกรรมร่วมกับสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทยหรือ TOCA พร้อมร่วมกิจกรรมแลก Earth Point ซึ่งคะแนนเหล่านั้นจะมาจากการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมในรูปแบบต่างๆ พร้อมรับรางวัลสุดพิเศษเมื่อสะสมแต้มคะแนนครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ภูมิภาคภาคกลางยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดโลกร้อน ลดภาวะมลพิษจาก PM 2.5 รวมทั้งลดภาวะการบริโภคน้ำมัน จึงได้เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบ Road Trip “ทริปประหยัดพลังงาน” โดยแบ่งเป็น 5 เส้นทางกระจายไปใน 5 ภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการจัดเส้นทางนี้ไปแล้ว 1 ครั้ง ในเส้นทางกรุงเทพ-ลพบุรี-สระบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรรถยนต์อย่างแบรนด์ Great Wall Motor หรือ GWM เป็นอย่างดี ส่วนกิจกรรมผ่านระบบ Online ทางภูมิภาค ภาคกลางก็ให้ความสำคัญ พร้อมกับมีการจัดกิจกรรม “ดีลคูลๆ กูรูท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นการร่วมจัดกับพันธมิตรสถานประกอบการที่พักที่ได้รับมาตรฐาน SHA และ SHA Plus ผ่านรูปแบบ Livestreaming Online โดยมีโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อเอาใจนักเดินทางชาวไทยทุกท่านโดยเฉพาะ
ลำดับต่อมาคือ โครงการเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองไทยไม่รู้ลืม โดยโครงการนี้จะมุ่งเน้นกลุ่มครอบครัวที่มีลูกหลานวัยซุกซนน่ารักและกลุ่มวัยทำงานเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ชีวิตที่ไม่ได้พบเจอในชีวิตทำงานประจำวัน เช่น การเรียนรู้การปลูกข้าว การเรียนรู้วิธีการจักสานพื้นบ้าน หรือการเปิดโอกาสให้เหล่าเด็กๆได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตในรูปแบบต่างๆเพื่อสร้างประสบการณ์การเติบโตเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพในอนาคต โดยกิจกรรมดังกล่าวจะดำเนินการผ่าน VDO Clip ที่มี Influencer กลุ่มครอบครัวมาเป็นผู้ดำเนินเรื่องราวพร้อมเชิญชวนให้ออกเดินทาง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย Online ผ่านแฟนเพจเที่ยว
ภาคกลางซึ่งผู้ที่ร่วมสนุกก็สามารถลุ้นรับของที่ระลึกสุดเก๋จาก ททท. ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้อีกด้วย และนอกจากกลุ่มครอบครัวแล้ว ภูมิภาคภาคกลางยังขอเอาใจนักท่องเที่ยวสายกีฬา ด้วยโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดา @ ภาคกลาง โดยเฉพาะกลุ่มก๊วนนักตีกอล์ฟ ซึ่งภูมิภาคภาคกลางได้ร่วมมือกับพันธมิตรสนามกอล์ฟ จำนวน 20 สนาม ในภูมิภาคภาคกลางที่ได้รับมาตรฐาน SHA จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษผ่านการลงทะเบียนในระบบ Golf Digg เพื่อรับข้อเสนอสุดคุ้ม สำหรับการตีกอล์ฟในสนามที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่กล่าวมานั้น ยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ภูมิภาคภาคกลางยังมีกิจกรรม การท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ และยังมีแหล่ง ท่องเที่ยวที่ น่าค้นหา อีกมากมาย ดังนั้น หากท่านใดที่ต้องการติดตามข่าวสารดีๆ ก็สามารถ เป็นแฟนเพจของเรา โดยการกดติดตามเพจ facebook “เที่ยวภาคกลาง” และ www.เที่ยวภาคกลาง.com เพื่อให้ท่านสามารถรับรู้ข่าวสารความเคลื่อนไหวของภาคกลางได้อย่างฉับไวก่อนใคร!
